หากเอ่ยถึงโรคต้อกระจก หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างไม่มากก็น้อย โดยต้อชนิดนี้เป็นภาวะที่เปลี่ยนแปลงการขุ่นของเลนส์ตา ซึ่งปกติแล้วเลนส์ตาจะมีลักษณะที่ใส และยังช่วยในการรวมแสงให้ตกบริเวณจอประสาทตาอย่างพอดิบพอดี เมื่อเกิดต้อชนิดนี้ก็ยิ่งทำให้แสงไม่สามารถเข้าไปในบริเวณดวงตาได้อย่างเป็นปกติ จึงจะส่งผลให้การมองเห็นไม่ชัด หรือตามัว ผู้ที่ป่วยโรคนี้บ่อยคือผู้สูงวัย
สาเหตุของโรค
ต้อกระจกเป็นความเสื่อมที่เกิดจากโปรตีน โดยเป็นองค์ประกอบของเลนส์ตา ส่งผลให้เลนส์ตามีความขุ่นและความแข็งมากกว่าเดิม และพบได้บ่อยสำหรับคนที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โดยเหตุผลหลักที่ทำให้ป่วยคือความเสื่อมไปตามวัยที่สัมพันธ์กับอายุอันทวีความชรามากกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ดีก็ไม่ได้แปลว่าคนที่อายุน้อยจะไม่ป่วยด้วยโรคนี้ เพราะเด็กทารกสามารถเป็นโรคต้อชนิดนี้ได้แต่กำเนิดจากมารดาที่ติดเชื้อหัดเยอรมันในช่วงที่ตั้งครรภ์นั่นเอง
เหตุผลที่ทำให้ป่วยด้วยโรคต้อกระจก
1.ได้รับรังสียูวี
เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้รังสียูวีเป็นรังสีที่ทวีความรุนแรงมากกว่าปกติอันมาจากภาวะเรือนกระจก อย่างไรก็ดีการได้รับรังสียูวีนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อน ทำให้ได้รับแสงแดดและรังสียูวีตลอดทั้งปี การสวมแว่นกันแดดจะช่วยป้องกันได้อย่างง่ายดาย
2.โรคประจำตัว
หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่ามีโรคประจำตัวที่ทำให้เกิดต้อชนิดนี้ได้ นั่นก็คือโรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ทำงานอย่างผิดปกติ ซึ่งโรคนี้จะทำให้เกิดต้อชนิดนี้ได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
3.มีโรคทางสายตามาก่อน
หากว่าคนไข้เคยมีปัญหาหรือมีโรคทางสายตามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นม่านตาอักเสบ ตาติดเชื้อ สายตาสั้นมาก หรือบางคนเคยผ่าตัดสายตามาก่อนอาจทำให้เกิดโรคต้อชนิดนี้ได้อย่างง่ายดาย
4.ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์
ยาสเตียรอยด์เป็นยาสำคัญที่มีสรรพคุณสำหรับรักษาโรคได้แบบหลากหลาย และมีการนำมาใช้ทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง ซึ่งหลายครั้ง เรามักจะได้ยินว่าอันตรายจากยาที่มีสารสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม เพราะว่านี่คือการใช้ยาอย่างผิดวิธี และหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาในหลายต่อหลายด้านและทำให้ตาเป็นต้อชนิดนี้ได้ง่าย
จะเห็นได้ว่าสาเหตุของต้อชนิดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกินคาด และบางอย่างเราเองก็ปฏิบัติกันอยู่เป็นประจำ ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่หากว่าเราจะพยายามดูแลสุขภาพของเรานับแต่วันนี้